วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2561

บทที่ 6

E-commerce
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์


E-Business & E-Commerce

          ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ (E-Business) หมายถึง การดำเนินธุรกิจโดยอาศัยเทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิกส์และอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อกลาง โดยมีการประยุกต์ใช้ในทุกกิจกรรมของธุรกิจ ทั้งกิจกรรมส่วนหน้า (Front Office) และกิจกรรมส่วนหลัง (Back Office) รวมทั้งการเชื่อมต่อกับระบบการค้ากับองค์กรภายนอกด้วย
          พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-commerce) หมายถึง การดำเนินซื้อขายสินค้าหรือบริการระหว่างธุรกิจ บุคคล ภาครัฐ และองค์กรสาธารณะ โดยผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องติดต่อซื้อขายกันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ระดับเทคโนโลยีพื้นฐาน เช่น โทรศัพท์ โทรสาร โทรทัศน์ ไปจนถึงเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อน เช่น อินเทอร์เน็ต และสามารถทำการแลกเปลี่ยนและติดต่อในเรื่องต่างๆ เช่น การชำระเงิน การจัดส่ง ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์

โครงสร้างของธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์

โครงสร้างของธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
  1. กิจกรรมส่วนหน้า (Front Office)
  2. กิจกรรมส่วนหลัง (Intra-back Office)
  3. กิจกรรมกับองค์กรภายนอก (Extra-back Office)

ประโยชน์ของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

กรอบการทำงานของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

กรอบการทำงานของ e-commerce ตามรูปแบบจำลอง แบ่งองค์ประกอบออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่
  1. การประยุกต์ใช้ (E-commerce Application) หมายถึง ลักษณะงานที่จะนำ e-commerce มาประยุกต์ใช้ให้เกิดความเหมาะสมกับธุรกิจ
  2. โครงสร้างพื้นฐาน (E-commerce Infrastructure) หมายถึง องค์ประกอบหลักสำคัญด้านเทคโนโลยีพื้นฐานที่จะทำให้ระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ทำงานได้ต่อไป
  3. การสนับสนุน (E-commerce Supporting) เป็นส่วนที่คอยทำหน้าที่ช่วยเหลือและสนับสนุนส่วนของการประยุกต์ใช้ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. การจัดการ (E-commerce Management) หมายถึง การวิเคราะห์ถึงองค์ประกอบของแบบจำลองทางธุรกิจ เพื่อกำหนดรูปแบบของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่คาดว่าจะสร้างผลกำไรให้กับองค์กรได้เหนือคู่แข่งขัน

รูปแบบการทำธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

การแบ่งรูปแบบการทำธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ออกเป็น 3 มิติ ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ (product) กระบวนการ (process) และตัวแทนการส่งมอบสินค้า (agent) อาจแบ่งรูปแบบการทำธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ออกเป็น 2 ลักษณะ ดังนี้
  1. พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แบบเต็มรูปแบบ
  2. พาณิชย์อิเล้กทรอนิกส์แบบบางส่วน

โมเดลทางธุรกิจ EC

แบ่งเป็น 3 แบบ ดังนี้
  1. บริคแอนด์มอร์ต้า (Brick and Mortar) หมายถึง ธุรกิจที่มีอาคารสถานที่เป็นอิฐและปูนประกอบการค้าขายแบบ "Off-line" คือไม่ได้ขายสินค้าหรือบริการผ่านอินเทอร์เน็ต
  2. บริคแอนด์คลิ้ก (Brick and Click) หมายถึง ธุรกิจที่มีอาคารสถานที่เป็นอิฐและปูน ซึ่งเดิมเป็นธุรกิจแบบบริคแอนด์มอร์ต้า แต่ต่อมาขยายมาทำธุรกิจที่ให้บริการบนอินเทอร์เน็ตด้วย จึงทำทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ เนื่องจากต้องการผสมผสานความได้เปรียบทางการแข่งขันมาจากธุรกิจทั้งทางด้านความชำนาญ ฐานข้อมูลและสายสัมพันธ์ มาจากธุรกิจเดิมที่ดำเนินงานอยู่ เช่น www.thaigem.com, www.se-ed.com, www.central.co.th
  3. คลิ้กแอนด์คลิ้ก (Click and Click) หรือดอทคอม (Dot.com) หมายถึง ธุรกิจที่ให้บริการบนอินเทอร์เน็ตเพียงอย่างเดียว ไม่มีอาคารสถานที่สำหรับประกอบธุรกิจ เช่น www.amazon.com, www.sanook.com, www.ToHome.com

ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

  1. กลุ่มธุรกิจที่ค้ากำไร (Profit) แบ่งเป็น 4 ประเภท คือ
  • Business-to-Consumer (B2C) เป็นธุรกรรมที่กระทำระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งเป็นการค้าขายแบบขายปลีก ที่มีทั้งการสั่งซื้อสินค้าจำนวนไม่มากและมูลค่าการซื้อขายไม่สูงมากนัก เช่น www.tohome.com, www.misslily.com, www.yahoo.com, www.amazon.com
  • Business-to-Business (B2B) เป็นธุรกรรมที่กระทำระหว่างธุรกิจด้วยกันเอง ส่วนใหญ่จะมีการสั่งซื้อสินค้าในปริมาณมากและมีมูลค่าการซื้อขายแต่ละครั้งจำนวนสูง ได้แก่ การสั่งซื้อสินค้าจากผู้ผลิต เป็นต้น เช่น www.FoodMarketExchange.com, Cisco.com, Intel.com
  • Consumer-to-Business (C2B) เป็นการทำธุรกรรมการค้าระหว่างผู้บริโภคกับผู้ประกอบการ เช่น www.voxcap.com, www.thaitambon.com
  • Consumer-to-Consumer (C2C) เป็นการทำธุรกรรมระหว่างบุคคลกับบุคคลที่เป็นกลุ่มผู้ซื้อ/ลูกค้า หรือผู้ใช้ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่ไม่ใช่รูปแบบของร้านค้า เช่น www.ThaiSeconHand.com, www.Ebay.com
      2. กลุ่มธุรกิจที่ไม่ค้ากำไร (Non-Profit) แบ่งเป็น
  • Business-to-Government (B2G) เป็นธุรกรรมระหว่างธุรกิจกับภาครัฐ
  • Government-to-Citizent (G2C) เป็นการทำธุรกรรมระหว่างภาครัฐกับประชาชนโดยไม่ค้ากำไร
  • Business-to-Employees (B2E) เป็นการทำธุรกรรมภายในองค์กรระหว่างองคืกรกับพนักงาน
  • Exchange-to-exchange (E2E) เป็นการทำธุรกรรมโดยอาศัย E-Commerce เป็นช่องทางสำหรับแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการระหว่างกัน
  • Intrabusiness EC เป็นการทำธุรกรรมที่อาศัยระบบเครือข่ายอินทราเน็ต สำหรับสื่อกลางในการติดต่อซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า บริการ และสารสนเทศ
  • Collaborative Commerce (C-Commerce) เป็นการทำธุรกรรมระหว่างผู้ร่วมค้าทางธุรกิจ ที่ต้องปฏิสัมพันธ์ร่วมกันภายในห่วงโซ่อุปทาน

ประเภทของสินค้าและบริการ

แบ่งประเภทของสินค้าและบริการพาณิชย์อิเล้กทรอนิกส์ ตามความหมายขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO)
  1. สินค้าที่จับต้องได้ (Tangible Goods)
  2. สินค้าที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Goods) หรือสินค้าดิจิทัล (Digital goods)
  3. กลุ่มสินค้าบริการ (Services)
  4. Mobile Commerce (M-Commerce)
  5. Social Commerce (S-Commerce)
  6. Nonbusiness E-Commerce

ประเภทของเว็บไวต์ EC

  1. เว็บไซต์แค็ตตาล็อกสินค้าออนไลน์ (Online Catalog Web Site) เป็นเว็บไซต์ในรูปแบบของการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อสินค้า เช่น www.Tarad.com
  2. ร้านค้าออนไลน์ (E-shop Web Site) เป็นรูปแบบเว็บไซต์ที่มีความสมบูรณ์แบบดดยมีทั้งระบบการจัดการสินค้า ระบบตระกร้าสินค้า ระบบการชำระเงิน ระบบการขนส่ง ผู้ซื้อสามารถทำการสั่งซื้อสินค้าและชำระเงินผ่านเว็บไซต์ได้ทันที เช่น www.Thaigem.com
  3. การประมูลสินค้า (Auction) เป็นเว็บไซต์ในรูปแบบของการนำเสนอการประมูลสินค้า โดยเป้นการแข่งขันเสนอราคาระหว่างผู้ต้องการประมูล และขายให้กับผู้ให้ราคาสูงสุด เช่น www.Ebay.com
  4. การประกาศซื้อขาย (E-classified) เป็นเว็บไซต์ในรูปแบบของการเปิดโอกาสให้ผู้สนใจประกาศความต้องการขายสินค้าของตนได้ภายในเว็บไซต์ เช่น www.Panthipmarket.com
  5. ตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์ (E-marketplace) เป็นเว็บไซต์ในรูปแบบของตลาดนัดขนาดใหญ่ โดยมีการรวบรวมเว็บไซต์ของร้านค้าต่างๆ และจัดแบ่งเป็นหมวดหมู่ เช่น www.Talad.com, www.Thaitambon.com

ตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์

ตลาดกลางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Electronic Marketing : E-marketing หมายถึง การดำเนินกิจกรรมทางการตลาดโดยใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือในการดำเนินกิจกรรมทางการตลาดกับกลุ่มเป้าหมาย เป็นกิจกรรมที่เป็นการสื่อสาร 2 ทาง และเป็นกิจกรรมที่นักการตลาดสามารถติดต่อกับผู้บริโภคได้ทั่วโลกและตลอดเวลา

หลักการตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

หลักการตลาดของธุรกิจทั่วไปจะมีการนำหลัก 4p มาใช้คือ
  • Product
  • Price
  • Place
  • Promotion
แต่หลักการตลาดของธุรกิจบนอินเทอร์เน็ต จะมีหลักการเพิ่มขึ้นมาตามสถานการณ์ของการประยุกต์ใช้ คือ
  • Personalization การให้บริการส่วนบุคคล
  • Privacy การรักษาความเป็นส่วนตัว

ขั้นตอนการทำธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

  1. การหาข้อมูล/การโฆษณาประชาสัมพันธ์ (Searching and Advertising)
  2. การทำธุรกรรม (Transaction)
  3. การทำคำสั่งซื้อ (Ordering)
  4. การชำระเงิน (Payment)
  5. การจัดส่ง (Delivery)

ลักษณะการใช้งานระบบตะกร้าสินค้า


ระบบตะกร้าสินค้าหรือรถเข็น








แหล่งอ้างอิง
https://www.slideshare.net/kanusorn/shopping-cart
https://www.mindphp.com/
https://www.baanjomyut.com/library_3/extension-1/e_commerce/10.html





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทที่8

Decision Support System ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ คือ ระบบที่ช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดการ การรวบรวมข้อม...